สรุปผลการปฏิบัติงานช่วยเหลือประชาชน
ของ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กรมการทหารช่าง (ศบภ.กช.)

 

            ตามที่ได้เกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ภาคใต้ ส่งผลให้เกิดอุทกภัยอย่างรุนแรง และมีประชาชนผู้ประสบอุทกภัยเป็นจำนวนมาก พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ได้มีความห่วงใยต่อชีวิต และทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน จึงได้กรุณาสั่งการให้หน่วยบรรเทา สาธารณภัยของกองทัพบก เข้าช่วยเหลือประชาชน เป็นการเร่งด่วน และได้มอบหมายให้ กรมการทหารช่าง จัดตั้งศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กรมการทหารช่าง ส่วนหน้า เพื่อบังคับบัญชา อำนวยการ ประสานงาน สั่งการ และกำกับดูแลการปฏิบัติ ช่วยเหลือประชาชน ของหน่วยในบังคับบัญชา ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ โดยมี พลโท นิพนธ์ ปานมงคล เจ้ากรมการทหารช่าง เป็น ผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กรมการทหารช่าง
       
และเนื่องจากผลการสำรวจความเสียหายของชุดสำรวจล่วงหน้า พบว่า พื้นที่เสียหาย มีจำนวนมาก ดังนั้น เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัยในภาคใต้ ให้มีความปลอดภัย สามารถใช้เส้นทางคมนาคม รวมทั้งนำสิ่งของบรรเทาทุกข์ เข้าสู่พื้นที่ได้อย่างทันท่วงที ตลอดจน บูรณะฟื้นฟูความเสียหายได้อย่างรวดเร็ว ผู้บัญชาการทหารบก จึงสั่งการให้ กองทัพภาคที่ ๑ , ๒ และ ๓ จัดกำลังหน่วยทหารช่างเฉพาะกิจบรรเทาสาธารณภัย ขึ้นสมทบกับศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กรมการทหารช่าง ส่วนหน้า ซึ่งผลการดำเนินการโดยภาพรวม สรุปได้ดังนี้.-

              

การแบ่งมอบพื้นที่ปฏิบัติการให้กับหน่วยทหารช่างเฉพาะกิจบรรเทาสาธารณภัย :
       
๑. หน่วยทหารช่างเฉพาะกิจ กองทัพภาคที่ ๑ ประกอบกำลังจาก กองพลพัฒนาที่ ๑ , กรมทหารช่างที่ ๑ รักษาพระองค์, กองพันทหารช่างที่ ๑ รักษาพระองค์, กองพันทหารช่างที่ ๒ รักษาพระองค์ และกองพันทหารช่างที่ ๙ : รับผิดชอบพื้นที่ จังหวัดนครศรีธรรมราช ๓ อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอถ้ำพรรณรา , อำเภอพิปูน และ อำเภอปากพนัง
       
๒. หน่วยทหารช่างเฉพาะกิจ กองทัพภาคที่ ๒ ประกอบกำลังจาก กองพลพัฒนาที่ ๒ , กองพันทหารช่างที่ ๓ , กองพันทหารช่างที่ ๒๐๑และกองพันทหารช่างที่ ๒๐๒ : รับผิดชอบพื้นที่ ๒ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครศรีธรรมราช ประกอบด้วย อำเภอขนอม และ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ประกอบด้วย อำเภอเมือง , อำเภอพุนพิน และอำเภอคีรีรัฐนิคม

              

        ๓. หน่วยทหารช่างเฉพาะกิจ กองทัพภาคที่ ๓ ประกอบกำลังจาก กองพลพัฒนาที่ ๓ , กองพันทหารช่างที่ ๓๐๒ , กองพันทหารช่างที ๔ และ กองพันทหารช่างที่ ๘ : รับผิดชอบพื้นที่ ๒ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชุมพร ในเขต อำเภอหลังสวน และ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ประกอบด้วย อำเภอไชยาและ อำเภอท่าฉาง
       
๔. หน่วยทหารช่างเฉพาะกิจ กรมการทหารช่าง จัดกำลังพลและยุทโธปกรณ์จาก กองพลทหารช่าง และหน่วยขึ้นตรงของกรมการทหารช่าง : รับผิดชอบพื้นที่ จังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน ๓ อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอสิชล , อำเภอท่าศาลา และอำเภอ นบพิตำ
       
สำหรับ หน่วยทหารช่างในพื้นที่ กองทัพภาคที่ ๔ ประกอบกำลังจาก กองพันทหารช่างที่ ๔๐๑ , กองพันทหารช่างที่ ๔๐๒ และ กองพันทหารช่างที่ ๕ ขึ้นการบังคับบัญชากับ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองพลพัฒนาที่ ๔ รับผิดชอบพื้นที่ จังหวัดกระบี่ , จังหวัดตรัง และ จังหวัดพัทลุง
       
ในส่วนของ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กรมการทหารช่าง ส่วนหน้า และ หน่วยทหารช่างเฉพาะกิจ กองทัพภาค ซึ่งประกอบกำลังจาก กองพลทหารช่าง , หน่วยขึ้นตรงของ กรมการทหารช่างและหน่วยทหารช่างของทุกกองทัพภาค มีกำลังพลกว่า ๘๐๐ นาย พร้อมทั้งยุทโธปกรณ์ และเครื่องมือในการบรรเทาสาธารณภัย กว่า ๖๐ รายการ รวมประมาณ ๒๗๘ คัน เข้าช่วยช่วยเหลือประชาชนครอบคลุม พื้นที่ ๖ จังหวัดภาคใต้ โดยสามารถสรุปผลการปฏิบัติงานที่สำคัญได้ดังนี้.-

              

        ๑. จัดกำลังพล - ยุทโธปกรณ์และเครื่องมือช่าง เข้าเปิดและซ่อมแซมเส้นทางสัญจร ของประชาชนในพื้นที่ที่ประสบปัญหาเส้นทางขาด จากดินโคลนถล่ม จำนวน ๒๒ เส้นทาง
       
๒. จัดกำลังพล - ยุทโธปกรณ์และเครื่องมือช่าง เข้าซ่อมแซม คอสะพานที่เสียหายจากการ กัดเซาะของกระแสน้ำ เพื่ออำนวยความสะดวกในการสัญจรของพี่น้องประชาชน จำนวน ๒๖ แห่ง
       
๓. จัดเรือท้องแบน พร้อมเครื่องยนต์ติดท้าย จำนวน ๔๐ ลำ พร้อมทั้งกำลังพล เข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในการสัญจรไปมา และนำน้ำดื่ม , อาหารและเครื่องอุปโภคบริโภคที่สำคัญ รวมทั้ง ถุงยังชีพกว่า ๒, ๐๐๐ ถุง เข้าแจกจ่ายให้กับประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมสูง ที่ไม่สามารถเดินทางออกมารับในพื้นที่แจกจ่ายได้
       
๔. จัดสร้างสะพานเครื่องหนุนมั่น M ๔ ในเส้นทางที่ขาด เนื่องจากดินถล่มและกระแสน้ำ กัดเซาะ จำนวน ๔ แห่ง และนำรถวางสะพาน แบบ ๘๔ เอ เข้าแก้ปัญหาด้านการคมนาคม บริเวณ คอสะพานในพื้นที่ หมู่ ๗ บ้านวังตะกอ ตำบลวังตะกอ อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร
       
๕. จัด รถสายพานลำเลียงพล (BRONCO ) จำนวน ๑ คัน พร้อมเจ้าหน้าที่ สนับสนุนเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร และฝ่ายบ้านเมืองในการค้นหาผู้ประสบภัย โดยนำ อาหาร น้ำดื่ม และยารักษาโรค รวมทั้งถุงยังชีพ ไปแจกจ่าย ให้กับผู้ประสบอุทกภัย ในพื้นที่ บ้านหน้าเขา อำเภอเขาพนม จังหวัดกระบี่ ซึ่งยานพาหนะอื่นเข้าไม่ถึง

                   

        ๖. จัดรถสายพานเอนกประสงค์ (BV206 ) จำนวน ๓ คัน เข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ในการสัญจรไปมา และนำน้ำดื่ม , อาหารและเครื่องอุปโภค บริโภคที่สำคัญ รวมทั้ง ถุงยังชีพ เข้าแจกจ่ายให้กับประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมสูง ที่ไม่สามารถเดินทางออกมารับในพื้นที่แจกจ่ายได้ ในพื้นที่ จังหวัด สุราษฎร์ธานี

                   

        ๗. จัดกำลังพลชุดก่อสร้าง ทำการสร้างสะพานคนเดินทดแทนสะพานที่ขาด เป็นการชั่วคราว จำนวน ๑๐ แห่ง
       
๘.จัดชุดผลิตน้ำประปาสนาม เข้าติดตั้งเครื่องผลิตน้ำประปา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน เรื่อง น้ำอุปโภค - บริโภค จำนวน ๑๑ แห่ง

              

        ในปัจจุบันยังคงจัด ชุดช่างสำรวจเส้นทางที่เสียหายเพิ่มเติมเพื่อจะได้แก้ปัญหาการสัญจรไปมาของประชาชนในพื้นที่ได้อย่างทันท่วงที และเตรียมจัดชุดช่างในการ บูรณะฟื้นฟู บ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหาย หลังจากน้ำลด ให้เข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็ว
       
กำลังพลทหารช่าง ของ กองทัพบกทุกนาย พร้อมเสมอในการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนหากเกิดภัยพิบัติ จะเร่งบูรณะฟื้นฟู และคืนความสุขสู่พี่น้องประชาชนในพื้นที่ ที่ประสพอุทกภัยโดยเร็ว ไม่ว่าพื้นที่แห่งนั้นจะยากลำบากหรือห่างไกลเพียงได้ หน่วยทหารช่างจะเป็นหน่วยแรกที่เข้าสู่พื้นที่ภัยพิบัติ และจะเป็นหน่วยสุดท้าย ที่ออกจากพื้นที่

              

            พล.ท.นิพนธ์   ปานมงคล   จก.กช.  และคณะ ลงพื้นที่ประสบอุทกภัยในภาคใต้ เพื่อรับทราบปัญหา และข้อขัดข้อง ในการดำเนินการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่อย่างเร่งด่วน ณ จว.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ ๑๐ เม.ย.๕๔    รายละเอียดเพิ่มเติม....

 

.................................................................................... 

 
  
กรมการทหารช่าง          ค่ายภาณุรังษี
ต.โคกหม้อ  อ.เมือง  จ.ราชบุรี  70000
จัดทำ/เผยแพร่โดย ส่วนปฏิบัติการระบบเครือข่ายฯ  ศทท.กช.
webmaster  ::  kittikraimanee@gmail.com   ทบ. 53105