ลักษณะทางภูมิศาสตร์
                  

               ที่ตั้ง : ประเทศซูดานมีเมืองหลวงคือกรุงคาร์ทูม ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของทวีปแอฟริกา มีพื้นที่ ๒,๕๐๕,๘๑๐ ตร.กม. (ประมาณยุโรปตะวันตก) นับเป็นประเทศที่มีพื้นที่มากที่สุดในทวีป  ซูดานมีเขตแดนทั้งทางบกและทางทะเลเป็นระยะทางรวมกันทั้งสิ้น ๘,๕๔๐ กม.
               ด้านทิศเหนือติดกับ - ลิเบีย (๓๘๓ กม.) - อียิปต์ (๑,๒๗๓ กม.)
               ด้านทิศตะวันออกติดกับ - ทะเลแดง (๘๕๓ กม.) - เอริเธีย (๖๐๕ กม.) - เอธิโอเปีย (๑,๖๐๖ กม.)
               ด้านทิศใต้ติดกับ - เคนยา (๒๓๒ กม.) - ยูกันดา (๔๓๕ กม.) - สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก (๖๒๘ กม.)
               ด้านทิศตะวันตกติดกับ - แอฟริกากลาง (๑,๑๖๕ กม.) - ชาด (๑,๓๖๐ กม.)
               ภูมิประเทศ : ภูมิประเทศโดยทั่วไปค่อนข้างราบ มีเทือกเขาทางทิศตะวันออกติดกับทะเลแดง ทางทิศใต้ของประเทศและทางตอนกลางของเขตพื้นที่ดาร์ฟูร์
               ภูมิอากาศ : มีความหลากหลาย ตั้งแต่ร้อนชื้นทางตอนใต้ ไปจนถึงแห้งแล้งแบบทะเลทรายทางตอนเหนือ ของประเทศ อุณหภูมิ ณ จุดใต้จุดเหนือเปลี่ยนแปลงค่อนข้างน้อย ฤดูฝนอยู่ในช่วง เม.ย. – พ.ย.
               ทางน้ำไหล : แม่น้ำที่สำคัญคือแม่น้ำไนล์ขาวและแม่น้ำไนล์น้ำเงิน ซึ่งไหลมาบรรจบกัน ณ กรุงคาร์ทูม เกิดเป็นแม่น้ำไนล์ซึ่งไหลลงทะเลเมดิเตอร์เรเนี่ยนในประเทศอียิปต์ แม่น้ำสำคัญอื่นคือแม่น้ำสาขาของ แม่น้ำไนล์ ได้แก่ แม่น้ำ Bahr al Ghazal แม่น้ำ Sobat และแม่น้ำ Atbaru
               พืชพันธุ์ไม้ : มีความหลากหลายตั้งแต่ป่าฝนเขตร้อนทางตอนใต้และค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นทุ่งหญ้าจนกลายเป็นทะเลทรายทางตอนเหนือ   
               เวลาท้องถิ่น : UTC + 3

ประชากร

               ประชากร : จำนวนประมาณ ๔๑,๒๓๖,๓๗๘ คน มักอาศัยอยู่ตามเมืองใหญ่
               เชื้อชาติ     แอฟริกันผิวดำ ร้อยละ ๕๒ ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในภาคใต้และภาคตะวันตก ,     อาหรับ ร้อยละ ๓๙ ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในภาคเหนือ ,     เบจา ร้อยละ ๖ ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ทางทิศตะวันตกด้านที่ติดกับเอริเทีย ,     ชาวต่างชาติ ร้อยละ ๑
               ศาสนา   มุสลิมนิกายซุนหนี่ ร้อยละ ๗๐ ,   ความเชื่อดั้งเดิม ร้อยละ ๒๕ ,   คริสต์ ร้อยละ ๕ ,   ภาษาอาหรับเป็นภาษาราชการ แต่ประชาชนส่วนใหญ่ในภาคใต้สามารถสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษได้ดี
               เศรษฐกิจ ถึงแม้ซูดานจะมีน้ำมันดิบเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญ แต่เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบภายในประเทศ สภาพทางภูมิศาสตร์ที่หลากหลายและราคาผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำ ทำให้ประชากรส่วนใหญ่ยังคงมีฐานะยากจน โดยส่วนใหญ่ร้อยละ ๘๐ ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ร้อยละ ๑๓ อยู่ในภาคบริการ และ ร้อยละ ๗ ในภาคอุตสาหกรรม โดยมีอุตสาหกรรมที่สำคัญที่สุดคืออุตสาหกรรมน้ำมัน ปัจจุบันซูดานอยู่ในระหว่างการเร่งพัฒนาประเทศด้วยการกำหนดนโยบายทางเศรษฐกิจที่ดีและการลงทุนใน โครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนับตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๔๒ ซึ่งซูดานได้เริ่มส่งออกน้ำมันดิบ อันเป็นผลให้ซูดานได้เปรียบดุลการค้าเป็นครั้งแรก ทั้งนี้ทรัพยากรน้ำมันจัดเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญที่สุด ของประเทศ โดยมีแหล่งน้ำมันดิบที่พิสูจน์แล้วอยู่ถึง ๑.๖ พันล้านบาร์เรล พร้อมด้วยแหล่งก๊าชธรรมชาติอีก ๘๔.๙๕ พันล้านลูกบาศก์เมตร  ปัจจุบันซูดานส่งออกน้ำมันดิบวันละ ๒๗๕,๐๐๐ บาร์เรล จากที่สามารถผลิตได้วันละ ๓๔๔,๗๐๐ บาร์เรล
               ประเทศคู่ค้าที่สำคัญของซูดานในด้านการส่งออกได้แก่จีน ร้อยละ ๗๑.๑ ญี่ปุ่น ร้อยละ ๑๒ และซาอุดิอาระเบีย ร้อยละ ๒.๘ ในด้านการนำเข้าได้แก่ จีน ร้อยละ ๒๐.๗ ซาอุดิอาระเบีย ร้อยละ ๙.๔ ที่เหลือคือสหรัฐอาหรับเอมิเรต อียิปต์ ญี่ปุ่น และอินเดีย อีกประมาณร้อยละ ๕
               สกุลเงินของซูดาน  คือ Sudannese denar (SDD) ปัจจุบันมีอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ประมาณ ๒๒๐ SDD ต่อ ๑ เหรียญสหรัฐฯ

การคมนาคมและขนส่ง

               ปัจจุบันซูดานอยู่ในระหว่างเร่งพัฒนาโครงสร้างระบบการคมนาคมและขนส่งภายในประเทศ   โดยนำรายได้จากการส่งออกน้ำมันมาเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ ระบบการคมนาคมและขนส่ง  ในปัจจุบันมีดังนี้
               ทางถนน : เมื่อเปรียบเทียบกับขนาดของประเทศแล้ว ซูดานจัดว่ามีถนนอยู่น้อยมากและมีคุณภาพต่ำ อันเนื่องมาจากการขาดแคลนการบำรุงรักษา โดยมีถนนเป็นระยะทางทั้งสิ้น ๑๑,๙๐๐ กม. แบ่งเป็นถนนพื้นแข็งใช้งาน ได้ทุกฤดู ๔,๓๒๐ กม. กว่า ๑ ใน ๔ เป็นถนนระหว่างเมือง Port Sudan และกรุงคาร์ทูม และถนนพื้นอ่อนซึ่งแทบจะใช้การไม่ได้ในช่วงฤดูฝน ๗,๕๘๐ กม.
               ทางรถไฟ : การขนส่งทางรถไฟจัดเป็นวิธีการหลักของซูดาน ปัจจุบันซูดานมีทางรถไฟเป็นระยะทางทั้งสิ้น ๕,๓๑๑ กม. โดยปริมาณการใช้งานระหว่างเมือง Port Sudan และกรุงคาร์ทูมคิดเป็น ๒ ใน ๓ ของปริมาณการใช้งานทางรถไฟทั้งประเทศ
               ทางอากาศ : ซูดานมีสนามบินทั้งสิ้น ๖๑ แห่ง แบ่งเป็นสนามบินที่มีทางวิ่งพื้นแข็ง ๑๒ แห่ง (ทางวิ่งความยาว มากกว่า ๓,๐๔๗ ม. ๑ แห่ง  ทางวิ่งความยาวระหว่าง ๒,๔๓๘ – ๓๐๔๗ ม. ๘ แห่ง  ทางวิ่งความยาวน้อยกว่า ๒,๔๓๘ ม. ๓ แห่ง) และสนามบินที่มีทางวิ่งพื้นอ่อนอีก ๔๙ แห่ง (ทางวิ่งมีความยาวระ หว่าง ๑,๕๒๔ – ๒,๔๓๗ ม. ๑๕ แห่ง  ทางวิ่งมีความยาวระหว่าง ๙๑๔ – ๑,๕๒๓ ม. ๒๔ แห่ง และทางวิ่งมีความยาวน้อยกว่า ๙๑๔ ม. ๑๐ แห่ง)

               ตามลำน้ำในแผ่นดิน : แม่น้ำไนล์ซึ่งไหลผ่านซูดานจากใต้ขึ้นเหนือ จัดเป็นวิธีการหนึ่งที่มีประสิทธิภาพ ในการขนส่ง มีระยะทางที่สามารถใช้ในการขนส่งสินค้าได้ ๕,๓๑๐ กม. ในจำนวนนี้สามารถใช้ขนส่งสินค้าได้ตลอดทั้งปีเป็นระยะทาง ๑,๗๒๓ กม.
               ท่าเรือ : ซูดานมีท่าเรือน้ำลึกที่ใช้งานได้ ๒ แห่งคือ Port Sudan (สามารถขนส่งสินค้าได้ ๓ ล้านตันต่อปี) และ เมือง Sawakin (สามารถขนส่งสินค้าได้ ๑.๕ ล้านตันต่อปี) ท่าเรือทั้งสองจัดเป็นจุดสำคัญที่สุดในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศของซูดาน ๕.๖    การขนส่งทางท่อ : ซูดานมีระบบขนส่งทางท่อประกอบด้วยท่อก๊าช ๑๕๖ กม. ท่อน้ำมัน ๕,๕๔๓ กม.

ระบบการสื่อสาร

 
     ระบบโทรศัพท์ : ประกอบด้วยโทรศัพท์บ้าน ๖๗๐,๐๐๐ เลขหมาย โทรศัพท์เคลื่อนที่ ๑,๘๒๘,๐๐๐ เลขหมาย และกำลังมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว รหัสประเทศคือ ๒๔๙
      สถานีวิทยุ : ระบบ AM จำนวน ๑๒ สถานี ระบบ FM และคลื่นสั้นระบบละ ๑ สถานี มีผู้รับฟังประมาณ
๗,๕๕๐,๐๐๐  คน
     สถานีโทรทัศน์ : ๓ สถานี มีผู้รับชมประมาณ ๒,๓๘๐,๐๐๐ คน
      ระบบอินเตอร์เนต : มีผู้ให้บริการ ๑๖ ราย มีผู้ใช้งานประมาณ ๒,๘๐๐,๐๐๐ คน รหัสประเทศคือ .sp

การเมืองการปกครอง


     การเมือง : ปกครองด้วยระบอบสาธารณรัฐ ประธานาธิบดีเป็นผู้มีอำนาจสูงสุด มีอำนาจในการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ รัฐบาลระดับสูง รวมทั้งผู้ว่าการรัฐทั้ง ๒๕ รัฐ ประธานาธิบดีคนปัจจุบันคือนาย Omar al – Bashir ซึ่งขึ้นสู่ตำแหน่งด้วยการทำรัฐประหารในปี พ.ศ.๒๕๓๒ ผลจากข้อตกลงสันติภาพระหว่างรัฐบาลและกลุ่มกบฏทางตอนใต้ของประเทศทำให้ ครม. ชุดปัจจุบัน ประกอบด้วยสมาชิก ๑๖ คน จากรัฐบาลซูดาน และ ๙ คน จากกลุ่มกบฏทางตอนใต้ โดยฝ่ายรัฐบาลได้ดำรงตำแหน่งในกระทรวงที่มีความสำคัญ เช่น กระทรวงกลาโหม กระทรวงพลังงาน กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการคลัง
     ระบบรัฐสภา : รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวซึ่งเกิดจากข้อตกลงสันติภาพระหว่างรัฐบาลซูดานและกลุ่มกบฏทางตอนใต้ กำหนดให้ระบบรัฐสภาของซูดานประกอบด้วย ๒ ส่วน คือ
      สมัชชาแห่งชาติ (The National Assembly) มีสมาชิกซึ่งแต่งตั้งโดยประธานาธิบดี ๔๕๐ คน ตามสัดส่วนคือ ฝ่ายรัฐบาล ร้อยละ ๕๒ กลุ่มกบฏทางตอนใต้ ร้อยละ ๒๘ และกลุ่มการเมืองอื่น ๆ อีกร้อยละ ๒๐
      คณะมนตรีความมั่นคงแห่งรัฐ (The Council of State) มีสมาชิก ๕๐ คน เป็นผู้แทนที่มาจากการเลือกตั้ง ในระดับรัฐ ๆ ละ ๒ คน
     ระบบศาลยุติธรรม : ประกอบด้วยศาลรัฐธรรมนูญ ศาลฎีกา ศาลอุทธรณ์ และศาลชั้นต้น
      ระบบกฎหมาย : มีพื้นฐานมาจากกฎหมายของอังกฤษโดยในปัจจุบันได้มีการบังคับใช้กฎหมายอิสลาม ทั่วทั้งประเทศยกเว้นรัฐทางภาคใต้

ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

                  
                     ซูดานมีความสัมพันธ์อย่างดีเยี่ยมกับประเทศสมาชิก League of Arab แต่มีความสัมพันธ์ค่อนข้าง เลวร้ายกับประเทศเพื่อนบ้านหลายประเทศรวมทั้งนานาประเทศ เนื่องจากรัฐบาลซูดานนิยมลัทธิมุสลิมหัวรุนแรง และเคยให้การสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายระหว่างประเทศหลายกลุ่ม รวมทั้งการให้การสนับสนุนกองกำลังติดอาวุธ ซึ่งต่อต้านรัฐบาลของประเทศเพื่อนบ้าน โดยในช่วงทศวรรษที่ ๑๙๙๐ยูกันดา เคนยา และเอธิโอเปีย ได้รวมตัวกัน เป็นพันธมิตรซึ่งมีชื่อว่า Front Line State ในการต่อต้านนโยบายมุสลิมหัวรุนแรงของรัฐบาลซูดานในขณะนั้น อย่างไรก็ดีตั้งแต่กลางทศวรรษที่ ๑๙๙๐ รัฐบาลซูดานได้ลดระดับความก้าวร้าวของตนเองลงอย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลมาจากแรงกดดันจากสหรัฐฯ และการค้นพบและพัฒนาแหล่งน้ำมัน ในภาคใต้ซึ่งอยู่ในพื้นที่อิทธิพล ของกลุ่มกบฏ
                    นอกจากปัญหาอันเนื่องมาจากนโยบายอิสลามหัวรุนแรงแล้ว ซูดานซึ่งมีปัญหาเรื่องเขตแดนระหว่าง
ประเทศกับอียิปต์ในบริเวณสามเหลี่ยม Hala’ib และกับเคนยาเนื่องมาจากขอบเขตการ ปกครองของซูดานไม่ตรงกันกับเขตแดนระหว่าง ๒ ประเทศ
                    ความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านที่เลวร้ายที่สุดของซูดานคือความสัมพันธ์กับชาด ซึ่งประกาศสงครามกับซูดานสืบเนื่องมาจากการที่กลุ่มติดอาวุธซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลซูดานได้บุกโจมตี
เมือง Adre ของชาด ทำให้มีประชาชนของชาดเสียชีวิตประมาณ ๑๐๐ คน โดยในปัจจุบันสถานการณ์ตามแนวชายแดนระหว่างชาดและซูดานยังเต็มไปด้วยความตึงเครียดเกิดการโจมตีด้วย
อาวุธข้ามแนวชายแดนอยู่เป็นประจำ